Cloud Technology หรือ Cloud Computing คือ เทคโนโลยีของระบบประมวลผลรูปแบบใหม่ ที่เปลี่ยนมุมมองของผู้ใช้ให้เป็นไปในมุมมองในลักษณะคล้ายๆ กับการใช้ทรัพยากรสาธารณูปโภคที่มีผู้ให้บริการหมายความว่าผู้ใช้สามารถใช้ Cloud Technology ในลักษณะคล้ายๆ กับการใช้บริการ โดยเสียค่าบริการเป็น Pay per use จ่ายเท่าที่ใช้หรือจะใช้ประจำทุกเดือน โดยในปัจจุบัน องค์กรสามารถใช้ Cloud Technology ได้ 2-3 รูปแบบ คือ
1.รูปแบบที่ 1 (Software as a Service, SaaS) ในรูปแบบนี้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงแอพพลิเคชั่นและข้อมูลองค์กรได้ทุกที่ ทุกเวลา ที่สามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้โดยผู้ใช้สามารถเรียกใช้ Business Software บน Cloud Technologyได้ทันที
2.รูปแบบที่ 2 (Infrastructure as a Service, IaaS) รูปแบบนี้จะสะดวก ยืดหยุ่น และ ง่ายต่อการบริหารทรัพยากร IT ผู้ใช้สามารถเรียกใช้ Virtual Server/ Virtual Machine บน Cloud Technology ได้ทันที
3.รูปแบบที่ 3 (Platform as a Service, PaaS) เป็นรูปแบบที่กำลังจะมีความสำคัญมากขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ เพื่อให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์สามารถพัฒนาแอพพลิเคชั่นที่อาศัยคุณสมบัติข้อดีของ Cloud ได้อย่างดีเยี่ยม รูปแบบนี้ซับซ้อนมากขึ้นกว่า 2 รูปแบบแรก ซึ่งผู้ใช้ Cloud ในรูปแบบนี้จะเป็นกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์ (Software Developer) ที่ต้องการพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อใช้งานบน Cloud และให้ซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นนั้นใช้คุณสมบัติต่างๆของ Cloud ที่จะไม่สามารถหาได้จากสภาวะปกติ (Non-cloud computing)
ข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัดในเชิงต้นทุนระหว่าง Cloud Technology หรือ แบบดั้งเดิม (Non-Cloud) สามารถจำแนกออกเป็นประเด็นต่างๆ ได้ดังนี้
1. (Cloud) "Pay as you grow" และ (Non-Cloud) "Pay Upfront investment": ถ้าเป็น Cloud Technology รูปแบบการลงทุนจ่ายค่าใช้บริการจะเป็นไปในลักษณะ "ใช้น้อย จ่ายน้อย, ใช้มาก จ่ายมาก" ส่วน non Cloud นั้น ต้องลงทุนเยอะก่อนโดยอาจจะใช้ไม่คุ้มกับค่าบริการที่เสียไปนอกจากนั้นต้องคอย upgrade Software ชุดใหม่ๆด้วย
2. (Cloud) ไม่มีต้นทุนในเชิง Maintenance Service ที่องค์กรธุรกิจต้องจ่าย ส่วน (Non-Cloud) มีต้นทุน Maintenance Service ที่องค์กรธุรกิจต้องจ่ายทุกปี หรือ ทุก 3-5 ปี